หลากวิธีช่วยเพื่อนสู่ธรรม

Last Updated on Monday, 28 February 2011 14:11 Written by Administrator Tuesday, 01 February 2011 14:13

หลากวิธีช่วยเพื่อนสู่ธรรม โดย หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

เราจะต้องช่วยกันให้คนเข้าถึงธรรมะ ให้รู้จักหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนา
แต่เบื้องต้นคือต้องให้มันรู้ตั้งแต่เด็กๆ แต่บางทีนั้นพ่อแม่ไม่ค่อยประสีประสาในเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ
นับถือพระศาสนาก็เพียงแต่ชื่อ เราจึงต้องหาทางช่วยกันโดยวิธีอื่น

วิธีที่จะช่วยกันนั้นคือว่าเราจะต้องสอนเด็กให้เข้าถึงพระศาสนา
ในวันที่เขาหยุดเล่าเรียน เช่นวันอาทิตย์นี่เด็กหยุดการเรียน ไม่ไปโรงเรียน
พ่อแม่ก็ควรจะนึกว่าลูกเราว่างจากการเรียนวันอาทิตย์ วัดไหนเขามีการสอนพุทธศาสนาให้แก่เด็กวันอาทิตย์บ้าง
เราก็ควรเอาลูกไปฝากให้เรียนเพื่อให้เข้าถึงธรรมะ ได้รู้ไว้เอาไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันต่อไป...

ความจริงเวลานี้ก็มีการศึกษาก้าวหน้าเรียนถึงขั้นมหาวิทยาลัย
แต่ว่าในการเรียนนั้นไม่มีการสอนธรรมะให้คนเกิดความรู้ความเข้าใจ
เมื่อเขาไม่รู้จักธรรมะเขาก็ไม่รู้จักปลงของหนัก ก็หนักอยู่ตลอดเวลา
คนเราถ้าแบกของหนักแล้วไม่ปลงลงเสียบ้าง ก็เดินเอียงไปเท่านั้นเอง บ่าหนักอยู่ข้างหนึ่งมันก็เอียง
ถ้าหนักสองบ่ามันก็ทรุดเท่านั้นเอง ลุกขึ้นไม่ได้เพราะไม่รู้จักปลงไม่รู้จักวาง เราจึงต้องสอนเขาให้รู้ธรรมะ
แล้วสอนให้เขารู้ว่าใช้ธรรมะอย่างไรในชีวิตประจำวัน เมื่ออะไรเกิดขึ้นควรจะคิดจะวางอย่างไร
แล้วควรจะแนะนำเขาไว้ว่าเมื่อใดกลุ้มใจอย่าลืมนึกถึงพระพุทธเจ้า มาหาพระสงฆ์ที่มีความรู้ความเข้าใจธรรมะ
เพื่อท่านจะได้แบ่งเบาความทุกข์ที่อยู่ในอกนั้น ให้มันหายไปตามวิธีของพระพุทธเจ้า...

ธรรมะจะช่วยเราในเมื่อเราเข้าหาธรรมะ แต่ในเมื่อเราไม่เข้าหาธรรมะ ธรรมะจะช่วยได้อย่างไร
ยาอยู่ในขวดจะช่วยคนให้หายป่วยได้อย่างไร หายไม่ได้ ต้องกินยานั้นตามที่นายแพทย์สั่ง
กินกี่เวลาเช้าหรือเที่ยงเย็น ก่อนอาหารหรือหลังอาหาร กินให้มันถูกต้องตามที่หมอสั่ง โรคก็จะหาย
ธรรมะก็เป็นอย่างนั้นแหละ ธรรมะเป็นโอสถแก้โรคทางจิตทางวิญญาณ
เราก็ศึกษาเอามาใช้เป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ความจริงคนเรามันต้องอ่านธรรมะทุกวัน ฟังธรรมะทุกวัน แต่ว่าสมัยก่อนนี่ลำบาก หนังสือไม่ค่อยมีอ่าน
มีอยู่ก็ในหอไตร หอไตรก็เอาไปอ่านไม่ไหว หนังสือในหอไตรนั่นอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง
สมัยนี้หนังสือเยอะแยะ เราควรจะซื้อไปไว้อ่านบ่อยๆ
เมื่อมีปัญหาอะไรขึ้นก็อ่านๆ ไว้ กลุ้มใจอ่านหนังสือ ไม่สบายใจเข้าห้องอ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือก็เหมือนกับว่าเราเข้าใกล้พระธรรม เราเข้าใกล้พระพุทธ เข้าใกล้พระสงฆ์
แล้วอ่านบ่อยๆ ก็จะได้เอาไปนึกใช้ได้ทันท่วงที

หรือไม่เราก็ฟังธรรมะบ้าง สมัยนี้สะดวกมากเพราะว่าธรรมะมันอยู่ในเทปอัดเสียง เขาทำไว้เยอะแยะเราก็มี
ซื้อวิทยุก็มีฟังกันอยู่ทั่วไปแล้วเทปมีก็อย่าฟังแต่เพลง เธอจ๊ะเธอจ๋า เราก็เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์
ฟังก่อนนอนก็ได้ ฟังตื่นนอนก็ได้
นั่งรับประทานอาหารก็เรียกว่าเอาเทปธรรมะปลอบใจต่างเสียงเพลง มันก็ดีขึ้นได้ประโยชน์

เพื่อนฝูงมาเยี่ยมมาเยือนคุยเรื่องงานเรื่องการกันเสร็จแล้ว ฟังนี้หน่อยเอาธรรมะมาเปิดให้เพื่อนฟัง
หรือเปิดธรรมะให้ฟังก่อน เรื่องงานเอาไว้พูดกันทีหลัง ใจมันสงบแล้วคุยกันสบาย มีปัญญามีความคิดความอ่าน
เราเอาธรรมะไปเลี้ยงเพื่อน ต้อนรับเพื่อน เพื่อนที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังธรรมะเมื่อได้ยินเข้าจะรู้สึกประหลาดใจ
รู้สึกว่า โอ...นี้มีประโยชน์แก่ชีวิตของเรา เขาจะสนใจในวันหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่งของชีวิต
เราได้จูงเพื่อนของเราที่เดินหลับตาคลำโลกอยู่นั่น ให้ได้ลืมหูลืมตาหันหน้าเขาหาธรรมะสักรายสองราย
นับว่าเป็นการช่วยอย่างประเสริฐ ให้ของประเสริฐแก่เพื่อน แล้วดึงเพื่อนเข้าหาสิ่งถูกต้องแล้วเราควรอิ่มใจ

ในสำนักงานเราเคยชวนเพื่อนมาในทางที่ถูกต้องบ้างไหม
ช่วยเพื่อนให้เกิดปัญญาความคิดความอ่าน ในเรื่องชีวิตได้อย่างถูกต้องไหม น้อยมากที่จะชวนกัน
เวลาพบกันก็ได้แต่วางแผนว่าเย็นนี้จะไปดูหนังกันที่โรงไหน หรือจะไปกินข้าวกลางวันกันที่ไหน
วางแผนแต่เรื่องของวัตถุ แต่เราไม่วางแผนเรื่องของธรรมะกับเพื่อน
ไม่หาโอกาสคุยธรรมะให้เพื่อนฟัง กลัวเหมือนกัน กลัวว่าเขาหาว่าเราแก่วัดแก่ธรรมะไป

แต่ว่าการแก่วัดแก่ธรรมะนี้ดีกว่าการแก่เหล้าแก่การพนันขันต่อ เพราะว่าการแก่เหล้านี้มันขาดทุน
แก่การพนัน แก่การเที่ยวกลางคืน แก่เรื่องเหลวไหล มันไม่ได้เรื่องอะไร
แต่ถ้าเพื่อนหาว่าคุณยายมาอีกแล้ว และพอเราจะกล่าวธรรมะก็บอกว่าจะเทศน์อีกแล้ว
ก็ช่างเขา เราก็ชวนพูดชวนคุยไป หาโอกาสสนทนาไป เพื่อนก็ค่อยซึมซาบเข้าไปทีละน้อยๆ

วันอาทิตย์ที่เรามาวัดนัดเพื่อนมาบ้าง ชวนเพื่อนว่า เออ...วันนี้ไปวัดกันนะ ถ้าเรามีรถก็เอาไปรับเพื่อนมาวัด
นี่แหละคือการ สงเคราะห์เพื่อนด้วยความดี สงเคราะห์ด้วยธรรมะ
สงเคราะห์เพื่อนด้วยธรรมะเป็นการสงเคราะห์ที่มีคุณค่ามีราคา ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น
ไม่ได้ช่วยแต่เพื่อนคนนั้นแต่ว่าช่วยให้คนในครอบครัวดีขึ้น ให้การงานดีขึ้น ให้ประเทศชาติดีขึ้น
เพราะคนได้หันหน้าเข้าหาธรรมะ ได้ปฏิบัติธรรมะ

ครูโรงเรียนไหนที่พาเด็กมาเข้าวัดเรียกว่าเป็นครูที่ประเสริฐ เป็นครูที่ดีแล้วกล้านำเด็กมาที่วัด นำมาเถอะมาบ่อยๆ
อย่างน้อยเขาได้เกิดความคิดเกิดปัญญา สิ่งที่เขาฟังไว้นั้นอาจจะไม่ได้ใช้เวลานี้ก็ได้
แต่เมื่อโตขึ้นบางทีเขาได้เอาไปใช้เวลาเขามีความทุกข์ขึ้น
โอ..แหม หลวงพ่อองค์นั้นเคยเทศน์ให้เราฟัง แล้วเขาก็มาหาที่พึ่งทางใจ

เพราะฉะนั้นเ ราช่วยกันดึงคนเข้าวัดเข้าวา ดึงไม่มาก็เอาเทปไปเปิดให้ฟังที่บ้านก็ได้
วันเกิดนี่เราส่งเทปไปให้เขาฟัง ส่งหนังสือธรรมะไปให้
รู้ว่าวันเกิดใครก็ส่งไปเป็นของขวัญวันเกิดดีกว่าเอาดอกไม้ไปให้
ดอกไม้ดูตอนเช้า ตอนบ่ายเหี่ยวแล้ว ตอนเย็นขว้างทิ้งแล้ว มันไม่ได้เรื่องอะไร แต่ว่าธรรมะมันไม่เหี่ยวมันไม่แห้ง
เราให้เขาแล้วมันก็อยู่ถาวร เขาได้เปิดฟังแล้วก็สบายใจ เขาได้ความรู้ความเข้าใจ
เป็นเรื่องดีกว่าให้ของขวัญด้วยดอกไม้

ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เหมือนกัน วันเกิดรัฐมนตรีอะไรอย่างนี้ เอาธรรมะส่งไปให้บ้าง
เผื่อว่าฟังแล้วจะได้รู้สึกตัวว่ากูนี่กำลังเลอะแล้ว
แล้วก็จะได้แก้ไขเสียบ้างด้วยอำนาจธรรมะที่เราเอาไปให้เป็นของขวัญ

คนเรามันจะดีขึ้นเมื่อได้เข้าไปหาพระ ได้นำพระมาใส่ไว้ในใจแล้วก็รักษาพระนั้นไว้ชั่วชีวิต
จะคิดอะไร จะพูดอะไร จะทำอะไร ต้องอยู่ในขอบเขตของพระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า
เรารักเราซื่อตรงต่อพระพุทธเจ้า เมื่อเรามีปัญหาอะไรก็นึกถึงท่าน นึกถึงคำสอนของท่าน
นึกถึงพระสงฆ์อริยสาวกของพระพุทธเจ้า เราก็สบายใจ...

สาธุ สาธุ สาธุ
เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของปาฐกถาธรรมวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๕
โดย : http://www.manager.co.th

ที่มา : http://www.dhammajak.net